skip to main
|
skip to sidebar
Home
Home
About
Uncategorized
Category B
Category C
Category D
Sunday, August 16, 2009
Home
»
การพัฒนาชาวเขาในประเทศไทย
» 40 ปีการพัฒนาชาวเขา(6)
40 ปีการพัฒนาชาวเขา(6)
เขียนโดย
Wrote
ที่
3:49 PM
กำเนิดองค์กร “กองสงเคราะห์ชาวเขา” ปีพ.ศ. 2505 ซึ่งนับยี่สิบสองปีให้หลังที่กรมประชาสงเคราะห์ได้รับการสถาปนา (ปีพ.ศ. 2483) รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง กองสงเคราะห์ชาวเขา ขึ้น ตามนัยพระราชกฤษฎีกาการแบ่งส่วนราชการกรมประชาสงเคราะห์ พ.ศ.2505 ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2505 โดยแยกการบริหารงานสงเคราะห์ชาวเขา ออกจากกองนิคมสร้างตนเอง
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นแหล่งกลางการประสานงาน และเป็นสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการสงเคราะห์ชาวเขา และเพื่อที่จะให้การสงเคราะห์ชาวเขาได้ผลดีตามความมุ่งหมาย โดยมี นายประสิทธิ์ ดิศวัฒน์ รับตำแหน่งหัวหน้ากองสงเคราะห์ชาวเขา เป็นท่านแรก
แม้ว่าโครงการนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา จะยังผลให้ชาวเขามีสภาพความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ก็ถือว่าได้รับความสำเร็จน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เพราะชาวเขาไม่ยอมละทิ้งถิ่นที่อยู่เดิมซึ่งเคยอยู่อย่างอิสระเข้าไปอยู่ในนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาได้ โดยง่าย ทั้งยังไม่ต้องการอยู่รวมกันหลายๆ เผ่า เนื่องจากความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการสงเคราะห์ชาวเขา จึงได้มีมติให้จัดตั้ง ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา ขึ้น ในปี พ.ศ. 2506 ที่ จังหวัดตาก และ ในปีพ.ศ. 2507 ที่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการจัดส่งให้ หน่วยพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาเคลื่อนที่ ออกปฏิบัติงานตามหมู่บ้านชาวเขา และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการทดลองและส่งเสริมการเกษตรบนภูเขา การคมนาคมบนเขา การจำหน่ายผลิตผลของชาวเขา พร้อมทั้งเป็นสำนักงานกลางของคณะกรรมการชาวเขาส่วนจังหวัด เป็นเลขานุการของคณะอนุกรรมการชาวเขาส่วนจังหวัดและเป็นแหล่งกลางในการประสานงานพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาในพื้นที่รับผิดชอบด้วย
หลังการจัดตั้งกองสงเคราะห์ชาวเขา ในปีพ.ศ. 2508 กรมประชาสงเคราะห์ก็ได้จัดตั้ง ศูนย์วิจัยชาวเขา ขึ้น ในบริเวณมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ปัจจุบันคือสถาบันวิจัยชาวเขา) เพื่อทำการ ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับชาวเขาเผ่าต่างๆ แล้วนำผลมาใช้ในการวางนโยบาย แผนงาน โครงการ และการดำเนินงานพัฒนาและสงเคราะห์ชาว
เขา ให้ได้ผลดียิ่งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกรมประชาสงเคราะห์ได้นำ ผลการวิจัยมาใช้เพื่อการพัฒนา ดังปรากฏผลทางนโยบายในหลายๆ เรื่องและขยายผลในทางปฏิบัติในเวลาต่อมา เช่น การประกาศใช้นโยบายรวมพวก (Policy of Integration) ในปีพ.ศ. 2519 และให้ใช้การพัฒนาแบบเขตพื้นที่โดยระบบสมบูรณ์แบบ (Zonal Integrated Development) ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาที่เน้นการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแนวลาดชันในพื้นที่ลุ่มน้ำ (Watershed Area) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและหยุดยั้งการทำไร่เลื่อนลอย เปลี่ยนมาเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินแบบถาวรให้ชาวเขาตั้งถิ่นฐานถาวรเป็นหลักแหล่ง เป็นต้น
การจัดส่งหน่วยพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาเคลื่อนที่ ซึ่งประกอบด้วย พนักงานประชาสงเคราะห์ เป็นหัวหน้าหน่วยฯ มีพนักงานเกษตรและพนักงานอนามัยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยฯ ในบางหน่วยฯ อาจจะมีครูสอนชาวเขาและล่ามชาวเขาด้วย ออกปฏิบัติงานตามหมู่บ้านชาวเขา ในระยะแรกๆ นั้น ได้ปฏิบัติงานเน้นหนักไปใน ด้านการสร้างความสัมพันธ์ สำรวจข้อมูลจุดที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขา ให้การรักษาพยาบาล และให้คำแนะนำในด้านการเกษต
ร ตลอดทั้งพิจารณาเลือกหมู่บ้านชาวเขาที่จะตั้งเป็นหมู่บ้านตัวอย่าง ซึ่งในการสร้างความสัมพันธ์กับชาวเขานั้น คณะกรรมการสงเคราะห์ชาวเขาเห็นว่ามีความสำคัญมาก จึงได้มีมติให้จัดตั้ง โครงการชาวเขาสัมพันธ์ ขึ้น เพื่อโน้มน้าวให้ชาวเขามีความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง เคารพในองค์พระมหากษัตริย์ มีความรักและหวงแหนแผ่นดิน เป็นกำลังสำคัญในการรักษาความปลอดภัยทางชายแดน ซึ่งในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวนี้ กรมประชาสงเคราะห์ โดยกองสงเคราะห์ชาวเขา ได้ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเอเชีย เพื่อจัดตั้งโครงการพระธรรมจาริก ขึ้น ร่วมกับคณะสงฆ์ ในปีพ.ศ. 2508 เพื่อส่งพระสงฆ์คณะหนึ่งเรียกว่า “คณะพระธรรมจาริก”ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชาวเขา พร้อมทั้งจัดตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นตามหมู่บ้านชาวเขาที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ต่อมาในปีพ.ศ. 2513 จึงได้จัดตั้งมูลนิธิเผยแพร่พุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดารในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
Related Posts
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.
Newer Post
Older Post
Home
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Search This Blog
Labels
HTWD Song
(1)
memorial of HTWD
(3)
VCD Ecotourism
(2)
การพัฒนาชาวเขาในประเทศไทย
(6)
บทบันทึกคนเคยเดินดอย
(10)
บทเพลงพัฒนาชาวเขา
(1)
เรื่องเล่าชาวดอย
(5)
แวดวงคนเคยเดินดอย
(2)
Popular Posts
35 ปี กับพี่น้องม้ง-ตอน 4 (จบ)
35 ปี กับพี่น้องม้ง-ตอน 4 (จบ) ขณะนี้ ผมก็ยังคงอยู่ปฏิบัติงานพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา บ้านน้ำคับน้ำจวงอยู่โดยทำหน้าที่หัวหน้าหน...
35 ปี กับพี่น้องม้ง-ตอน 3
มีหมู่บ้านหนึ่งอยู่บนที่สูง เรียกว่าบ้านป่ายาน ต.กกสะทอน อ.ด้านซ้าย จ.เลย ราษฎรส่วนหนึ่งไม่หนีออกจากหมู่บ้านไปร่วมกับผกค.แต่อยู่...
35 ปี กับพี่น้องม้ง-ตอน 2
ประสบการณ์ชีวิตการทำงาน 35 ปี กับพี่น้องม้ง ต่อมาในเดือน มิถุนายน 2511 ผู้ใหญ่บ้านป่าหวาย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งห...
40 ปีการพัฒนาชาวเขา(5)
การตั้งนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ซึ่งแต่เดิมองค์กรภายใต้กรมประชาสงเคราะห์ ที่รับผิดชอบงานพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา คือ กองนิคมสร้างตนเอ...
35 ปี กับพี่น้องม้ง-ตอน 1
ประสบการณ์ชีวิตการทำงาน 35 ปี (2534) กับพี่น้องม้ง ผมเข้ามาทำงานสังกัดกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อปลายปี พ.ศ.2509 โดยเข้าทำงานอยูที่...
รอยเท้าบนทางดอย
ทางดอยยังคง ทอดยาวไป ลับ ๆ ไกลไกล สุดสายตา เมื่อม่านหมอกหม่นมัวสลาย วันคืนคลี่คลายและเปลี่ยนแปลง กาลเวลาอาจพา ให้เปลี่ยนไป...
บทกวี.....คนเคยเดินดอย.
ไม่ใช่ว่าทุกคน จะมีโอกาส เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกคน จะไม่มีโอกาสเลย แต่...ทุกคนจะใช้โอกาสนั้น “ได้อย่างไร” ก่อนที่คนเราจะมีโอกาส “เลือก” เราต...
40 ปีการพัฒนาชาวเขา(6)
กำเนิดองค์กร “กองสงเคราะห์ชาวเขา” ปีพ.ศ. 2505 ซึ่งนับยี่สิบสองปีให้หลังที่กรมประชาสงเคราะห์ได้รับการสถาปนา (ปีพ.ศ. 2483) รัฐบาลจึงได้จัด...
ความทรงจำเมื่อครั้งเดินดอย-ตอน 2
งานชาวเขากับงานต่างประเทศในสมัยนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายนัก นอกจากเรื่องของความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ ท่า...
ผิดผี ตอน 2
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2518 – 2521 ผู้เขียนได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดลำพูน ในชุดหน่วยพ...
Donation
website analyzer
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.